
อย่ามาดูถูกงานออกแบบนะเว้ย!!! เป็นคำที่โผล่มาในหัวตอนที่เห็นเรทราคารับออกแบบเกมจากเจ้าหนึ่ง (ถูกเหลือเชื่อเลยล่ะสำหรับผม) ตามด้วยมีมเสี่ยคณิณในหัวว่าอย่ามาเล่นสงครามราคา พ่วงด้วยภาพจำว่านี้มันจะทรงเดียวกับงานออกแบบโลโก้ราคาถูกตัดกันยับไหมว่ะ....
ก็เลยอยากเล่ามุมมองส่วนตัวของการมีโอกาสไปเป็นเมนเทอร์ (แนะนำอย่างเดียวไม่ใช่กรรมการตัดสิน) งานประกวดบอร์ดเกมหลายครั้งดูซักหน่อย โม้แถมว่าได้แนะจนอันดับหนึ่งก็มีนะ ซึ่งจริงๆแล้วงานเค้าดีอยู่ผมแค่เกาะเค้าดังแหละ แต่ไม่ว่าคุณจะตีลังกามองยังไงผมก็สามารถเรียกตัวเองว่าเมนเทอร์อันดับหนี่งได้อย่างไม่มียางอาย เย่!
disclamer ไว้ก่อนว่าไม่ได้มีส่วนได้เสียกับทางโครงการไหนๆนะ แต่งานเมนเทอร์ส่วนมากก็จะได้รับค่าตอบแทนแต่ไม่ใช้จำนวนระดับสร้างบ้าน แค่พอเอาไปอ้างกับเมียได้ว่าไม่ได้เสียสละเงินและเวลาฟรีๆให้กับโครงการ (ซึ่งก็บอกไว้อีกว่าส่วนมากเวลาชวนๆกันเนี่ยคำถามจะอยู่แค่ว่างไหมสะดวกปล่าวแค่นั้นเลย .... หรือมีแค่ผมคนเดียวที่ไม่ถามเรื่องตังก็ไม่รู้นะ........)
ก่อนอื่นเราจะขอเล่าก่อนว่างานประกวดสร้างสรรค์บอร์ดเกมที่เห็นอยู่ช่วงสองสามปีนี้จะมีสองแบบใหญ่ๆ ทั้งสองแบบจะเหมือนกันตรงมีหัวข้อมาให้ก่อนแต่จะต่างกันที่แบบหนึ่งรับผลงานแล้วให้รางวัลไปเลย กับอีกแบบคือรับไอเดียกับงานต้นแบบก่อนคัดที่คิดว่าเวิร์คแล้วมาทำ workshop พัฒนางานกันต่อแล้วค่อยเอางานมาประกวดกัน
ทีนี้ทำไมต้องมาทำ workshop กันก่อน? อันนี้ไม่ได้ถามโครงการตรงๆแต่ผมคิดว่ามันมีประโยชน์แบบนี้ (ใช่ไม่ใช่ไม่รู้นะแต่ผมคิดงี้)
ต้นทุนของผู้เข้าแข่ง
คือการออกแบบบอร์ดเกมมันต้องลงทุนลงแรงออกแบบไม่น้อย นั่งตัดกระดาษ นั่งทดสอบเกมวนกันไป ทำๆรื้อๆ ถ้าเป็นงานส่งประกวดโป้งเดียวไม่ผ่านก็จบง่ายๆแค่นั้นเลย (นอกจากจะมีงานประกวดอื่นที่พอจะรียูสรีธีมได้) แต่งานประกวดทรงมี workshop หลายๆงานต้นทุนของผู้เข้าแข่งจะเป็นการ pitch idea กันก่อนถ้าผ่านค่อยลงมือทำ กับหลายๆงานที่ผมเจอจะมีการให้เงินสนับสนุนการทำเกมตัวต้นแบบมาให้ด้วย
คุณภาพในเชิงการออกแบบของเกม
ถ้าจำกันได้ว่าโพสก่อนเคยปรามาส (ด่านั้นแหละ) เกมสไตล์ roll & move 'ทรงสิ้นคิด' ที่มันควรจะหายไปได้แล้ว เพราะในระดับโลกการออกแบบบอร์ดเกมมันเดินมาไกลแล้ว จริงอยู่เกมมันมีความสนุกในแบบที่สามารถใช้งานได้แต่เรากำลังพูดถึงการแข่งขัน 'ออกแบบ' กันอยู่นะ ซึ่งจริงๆในระดับการรับรู้มันก็ควรมีของอื่นๆมาเทียบเคียงยกระดับด้วยเช่นกันไม่ใช่ flood ตลาดดึงค่าเฉลี่ยให้ตกลงด้วยการออกแบบสิ้นคิด
ทีนี้เป้าหมายของการประกวดก็เหมือนๆกันหมดคืออยากให้มีงานตอนจบมีคุณภาพที่สุด งานแนว workshop ก็เลยจะใช้กระบวนการรับสมัครในการคัดเกมที่คิดว่ามันน่าจะไปต่อได้มาลุยกันต่อ (แต่ใดๆคือในหลายๆงานที่ผ่านมาคนที่อยู่ในกลุ่ม 1st Tier แต่พลาดไม่ได้เข้ารอบไปแบบกรรมการคัดเลือกบ่นเสียดายก็มีจำนวนเยอะมากๆ)
ก็พูดตรงๆว่าเวลามีงานประกวดเนี่ยเกมแนว roll & move มันจะโดนคัดออกตั้งแต่ตอนนี้ ถ้าพูดแบบให้เกียรติหน่อยก็คือเกมแบบนั้นไม่แย่เลย เพียงแต่มีคนอื่นที่ออกแบบเกมได้น่าสนใจกว่าเยอะจนคุณไปอยู่หัวแถวไม่ได้ก็เท่านั้นเอง
ทีนี้เมนเทอร์ ทำไรมั้ง? แค่เล่นเกมมาเยอะหน่อยก็พูดได้แล้วป่ะ?
อันนี้ต้องแบ่งคนประกวดเป็นสองกลุ่มคร่าวๆ แบบแรกคือนักออกแบบคุ้นหน้าคุ้นตา กับนักออกแบบหน้าใหม่ ซึ่งสำหรับนักออกแบบหน้าใหม่งานของเมนเทอร์ก็คือการเอาประสบการณ์กับความรู้มาช่วยแนะนำจุดที่น่าจะเสริมหรือพัฒนาในตัวเกมได้นั้นแหละ ซึ่ง mentor แต่ละคนก็จะมีสไตล์ในการแนะนำไม่เหมือนกัน ก็เป็นหน้าที่ของผู้เข้าแข่งนี้อยู่ดีจะเลือกอะไรเอาไปปรับใช้ (งานล่าสุดคือ 4 กลุ่ม 4 ทิศทาง ฮาฮา)
อย่างถ้าสไตล์ของผมเองก็จะดูว่าอยากนำเสนอแบบไหน ให้ใครเล่น แล้วมันสามารถ present ยังไงให้คนเข้าใจได้ในเวลาที่จำกัด ซึ่งตรงนี้จะมีคนแย้งว่าไม่ได้เกี่ยวกับคุณภาพการออกแบบเกมเลยนิ? ก็ต้องบอกว่ามันเป็นประเด็นที่สำคัญมากในงานประกวดก็จริง แต่ก็ยังเป็นประเด็นสำคัญในเกมทำขายด้วยเช่นกัน เพราะการลำดับเรื่องที่ดีมันจะนำไปสู่การปรับกติกาที่เหมาะสมร่วมไปถึงสามารถเขียนคู่มือได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย
แต่ใช้ว่าพอเป็นนักออกแบบคุ้นหน้าแล้วเมนเทอร์จะไร้ประโยชน์เพราะสิ่งสำคัญที่ทำให้เกมมันไปต่อได้คือคนทดสอบเกมคุณภาพดีที่สามารถให้ feedback แบบคนเล่นเกมได้มากขึ้น ใดๆก็คือ tester คนทั่วไปก็สำคัญนะเพราะการจับอารมณ์คนที่เล่นจริงมันสำคัญมาก ประเด็นสำคัญก็คือทำให้ผู้เข้าแข่งไม่ตกอยู่ใน echo chamber และได้รับความเห็นหลากหลาย
"ผมคิดว่าการทำเกมคือการลองผิดลองถูก แต่การมีผู้เชี่ยวชาญช่วยแนะนำ เราก็จะได้ลองถูกมากกว่าลองผิดครับ" - เมนเทอร์ experiMuch
อีกฟังก์ชั่นหนึ่งของเมนเทอร์โดยเฉพาะสายบ่นเก่งแต่ไม่ได้ออกแบบประจำอย่างผมก็คือ ไปช่วย free slot ให้นักออกแบบตัวจริงเค้าไปลงงานแข่งเพื่อยกระดับคุณภาพงานอีกต่อครับ คือวงการบ้านเราจำนวนนักออกแบบยังมีไม่เยอะนัก เอาไปลงเมนเทอร์ลงเป็นกรรมการก็เหลือไปออกแบบเกมไม่เยอะแล้ว
ส่วนใครๆก็เป็นได้ใช้ไหม? จริงก็ตอบว่าได้แหละเพราะมันไม่ใช้อาชีพที่ต้องมีใบรับรอง ก็อยู่ที่คนจัดงานเค้ามองว่าเราเนี่ยน่าจะมีทักษะแบบที่เค้ามองหาไหม
กลับมาที่ประเด็นที่จั่วหัวไว้คือ - อย่ามาดูถูกงานออกแบบนะเว้ย!!! - คือผมก็มีโอกาสพบเจอเกมแนว 'ก็แค่เอาเกมที่มีอยู่แล้วมาเปลี่ยนธีม' หรือเอามาปรับต่อนิดหน่อยแล้วส่งประกวดทั้งอย่างนั้นเลย บางทีไอเดียก็ดีนะเอาไปทำต่อได้ แต่การออกแบบมันไม่ใช่แค่การคิดธีมกับเอาระบบมาประกบกันส่งๆ หรือต่อให้ทำเลขมาสวยเป๊ะ มีการสุ่มหลายแสนล้านรูปแบบ มันก็ไม่ได้การันตีอะไรเลยว่าเกมจะสนุก มันก็ต้องมาลงมือลงแรงสัมผัสกับคนจริงๆนี้แหละ
img -freepik