
ตอนนี้ยังเดือนกุมภาฯ เพราะฉะนั้นโพสนี้จะเล่าเรื่อง 'เล่นเกมกับแฟน'
ไม่มีดราม่า เล่าประสบการณ์ให้ฟังเฉยๆ ไม่ใช่ไรเห็นโพสก่อนดูทุกคนสนใจกับ PS5 สองเครื่องกันเยอะเลยอยากหยิบมาเล่า คือถ้ามองย้อนไปการใช้เวลาว่างของผมมันก็วนๆอยู่กับความพยายามที่จะใช้เวลาด้วยกันสองคนกับแฟนนี้แหละ (แต่ในแบบ comfort zone เด็กเนิร์ดติดบ้านชอบอยู่กับตัวเองเป็นส่วนมากอ่ะนะ.......)
คือด้วยความที่ผมเป็นเด็กเนิร์ด introvert หน่อย(นิดหน่อยแหละ....) ไม่ชอบออกจากบ้าน พอเวลาจะหากิจกรรมที่อยู่ด้วยกันกับแฟนเก่าช่วงมัธยม (ซึ่งก็เลิกกันไปนานแล้ว....ให้มาเป็นภรรยาแทน) เนี่ยตอนนั้นคือเล่น Magic: the Gathering ก็จริงจังประมาณหนึ่งมีไปแข่ง แฟนก็ตามไปบ้าง มาลงแข่งด้วยกันบ้าง แต่ด้วยความที่มัน competitive scene จ๋าๆก็นั้นแหละเอาเข้าจริงก็เหมือนเราคลุกอยู่กับเรื่องตัวเองแล้วก็ไม่ได้ใช้เวลาอะไรด้วยกันเท่าไร แค่แฟนใจดีอยากมาอยู่กับเราเฉยๆ
มามหาลัยก็มีช่วงที่ DotA 1 กำลังดังตามร้านเกม (เดี๋ยวนี้ยังอยู่รอดกันไหมหว่าร้านเกม.....) ข้างมหาลัย แต่คุณก็เข้าใจใช่มะเกมแนว MOBA แม่งหัวร้อนฉิบหายเล่นกันไปด่ากันไป ซักพักก็คิดว่าไม่เวิร์คหว่ะ พวกเกมเน้น skill played จ๋าๆเนี่ย
ด้วยความที่แนว competitive ไม่ค่อยเหมาะเท่าไรเพราะผมจริงจังเยอะ ปากเสียด่ากันเองเล่นแล้วทะเลาะกันมากกว่า แล้วอยู่ๆเราก็พบว่าเกมแนว Hack & Slash อย่าง Diablo (ตอนนั้นเล่นภาค 2 หรือ 3 หวา?) เนี่ยโคตรจะ perfect สำหรับเราเลย เพราะแทนที่จะมาแข่งกัน ก็มีความแบบต่างคนต่างเล่นต่างฟาร์มต่างอัพสกิลช่วยกันไปเรื่อย แฟนกากเราก็แบกไปดิ๊ หลังจากนั้นก็เล่นแต่แนวนี้ยาวเลย Touch Light , Borderland, Monster Hunter: World ฯลฯ คือมันสนุกแบบ together ดี แพ้ก็วนเล่นใหม่กันอยู่สองคนนั้นแหละ
ถ้าถามว่าทำไมไม่เล่น online ก็คือไม่ชอบอ่ะ.... มันใช้สังคมเกินไป พวก MMORPG นี้คือไม่แตะเลย พวกเกม action แบบช่วยๆกันเดินผ่านฉากก็ไม่ชอบเหมือนกัน รู้สึกมันเหมือนสแปมปุ่มไปเรื่อยชอบให้มี sense ของการนั่งเล่นซ้ำซากฟาร์มของมากกว่า
ก็วาร์ปมาช่วงบอร์ดเกมที่จริงๆผมเข้าวงการบอร์ดเกมด้วยการอยากได้เล่นด้วยกันกับแฟน (คุ้นๆมะ?) ตอนนั้นเริ่มแถวๆ Ticket To Ride, Catan, Carcassonne ที่ตอนนั้นเราคิดว่าซื้อมานิดหน่อยเล่นขำๆพอละ แต่อย่างที่คุณก็รู้ว่าผมคิดผิด...
คือด้วยความเป็นคน competitive มันก็นั้นแหละเกมมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ได้ใช้เวลาร่วมกันเยอะอยู่เรียกได้ว่าเวลาว่างผมก็อยู่กับการเล่นบอร์ดเกมนี้แหละลากมาเป็นสิบปี ช่วงนั้นคือ golden age สำหรับผมเลย ได้ไปทำตี้นัดเล่นเกมประจำทุกวันศุกร์ เพื่อนๆที่รู้จักกันมากมายก็มาจากช่วงนี้
พอมาช่วงที่มีลูกเนี่ยเวลาว่างยาวๆไม่ค่อยมีเล่นบอร์ดเกมด้วยกันไม่ได้แล้ว มีแอบไปเล่น Monster Hunter Now ที่เป็นเกมมือถืออยู่แป๊บนึง (รอลูกนอนแล้วขับรถวนไปเก็บของกันเลยนะ) แต่วนอยู่ได้ซักพักก็เริ่มตัน กิจกรรมใหม่ก็คือเราไปถอย Nintendo Switch มา 2 เครื่องเลย (มือสองไม่แพงเท่าไร) เพราะพกพาไปเล่นไหนต่อไหนได้แล้วก็พบว่าสนุกอยู่เกมเดียวคือ Monster Hunter: Rise คือมันสนุกแบบรอลูกเรียนชั่วโมงนึงก็มาฟาร์มทำของได้ตัวนึงไรงี้ นั่งรอบนรถหรือร้านกาแฟก็ได้หมด พอลูกหลับก็มาเล่นด้วยกันอีกนิดก่อนไปนอนบ้าง โคตร perfect.
ส่วน switch เกมอื่นคู่ผมเล่นละง่วงทุกอัน diablo 3 บน switch เหมือนเกม action ง่อยๆ, Cat Quest ก็น่าเบื่อ, (แต่มีที่ดีโคตรๆเลยคือ Its Take Two โคตรดีทุกคนควรเล่น) สรุปก็เลยเรียกว่าเป็นเครื่องเล่น Mon Hunt อย่างเต็มภาคภูมิเพราะไม่สนุกกับเกมอื่นเลย
คือพอมาเล่นบอร์ดเกมผมก็ไม่ได้แตะเกม digital จริงจังเลย PC ที่มีก็เก่ามาก ถ้าจะเล่น Mon Hunt : Wild ที่พึ่งออกใหม่เนี่ยก็ต้องซื้อคอมใหม่ เอาแบบพอไหวก็คงซัก 40k ซื้อสองเครื่องก็ซัดไปเกือบแสน....แพงเกิ๊น ก็มีดูๆ Handheld PC แล้วก็พบว่าด๋อยเกินไปดีหน่อยก็แพงอีก เลยเป็นเครื่อง PS5 เนี่ยแหละเครื่องละ 14K เวลาน้อยว่างปุ๊บกดเปิดติดละเล่นได้เลย ไม่ต้องกังวลเรื่อง spec ไม่ต้องมารอ windows update เน้นวอรี่ย์ฟรี ที่บ้านผมมีโต๊ะทำงานวางคู่กันสำหรับสองคนอยู่แล้วก็ไม่ต้องเซ็ทอะไรเพิ่ม
นี่จ่าย PlayStation Network แบบ Deluxe ไปมันก็จะมีเกมให้เล่นใน collection แบบคุณภาพดีเยอะมาก ตอนนี้ระหว่างรอ Mon Hunt ผมกับภรรยามาก็นั่งเล่น Wild Heart กัน ซึ่งก็ประมาณ Mon Hunt แหละแต่มีทวิสของตัวเองก็สนุกดี
เล่ามาตั้งนานเพื่อจะบอกว่า PS5 สองเครื่องถือว่าถูกครับ!! ถูกมากกกกก ได้ลดหย่อนภาษีด้วย และใช่ ผมเป็นคนที่โคตรรรรรรรรรโชคดีมีคู่ชีวิตที่เข้าใจและยอมมาใช้เวลาว่างด้วยกัน